เป็นที่ทราบกันดีว่า ช่วงนี้ เนื้อหมู มีราคาแพงขึ้น เนื่องจากปริมาณของเนื้อหมูในท้องตลาดนั้น ลดน้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากการที่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู หันไปทำอาชีพอื่น เนื่องจากแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลไม่ไหว

ล่าสุด ทีมข่าวอีจัน ได้สอบถามไปยัง นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ หรือ ชูวิทย์ กุ่ย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต 7 สังกัด พรรคเพื่อไทย ซึ่งให้ข้อมูลว่า จากโพสต์ที่ตนเองได้เผยแพร่ไปนั้น เป็นภาพหมูที่ตายในจังหวัดร้อยเอ็ด ด้วยโรค อหิวาต์แอฟริกา ในสุกร ที่เริ่มแพร่กระจายประเทศไทยมา 2-3 ปีแล้ว ทำให้มีหมูตายในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกันเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ก็ไม่สามารถซื้อหมูเพื่อมาขายใหม่ได้ เพราะไม่มีเงินที่จะไปซื้อ โดยผู้เลี้ยงหมูส่วนใหญ่ จะใช้เงินที่ได้มาจากการประกอบอาชีพอื่น เช่น การขายยางพารา เพื่อมาซื้ออาหารหมู แต่หลังจากที่ราคายางพาราตกลง ทำให้เงินที่เหลือจากการซื้ออาหารหมู ไม่เพียงพอที่จะซื้อหมูมาเลี้ยงใหม่

ประกอบกับโรค อหิวาต์แอฟริกา ในสุกร ที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้เกษตรกรไม่กล้าที่จะลงทุน ซึ่งจากสถานการณ์ในขณะนี้ ทำให้การผลิตเนื้อหมูลดลง มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ราคาเนื้อหมูแพงขึ้น เพราะตลาดยังมีความต้องการบริโภคเนื้อหมูอยู่ตลอด

ส่วนการเยียวยาเกษตรกรนั้น ตามขั้นตอนแล้ว จะต้องรวบรวมข้อมูลและหลักฐาน เพื่อส่งให้สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ส่งต่อไปยังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เพื่อรวบรวมส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยผู้ที่จะได้รับการเยียวยา จะต้องเป็นเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนผู้เลี้ยงสุกรกับกรมปศุสัตว์ ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า จะได้รับเงินเยียวยา มูลค่า 70% ของราคาขายหมูต่อตัว แต่ในขั้นตอนนี้ จะใช้เวลานาน ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกษตรกร ไม่สามารถซื้อหมูใหม่มาเลี้ยงได้ทันที และอาจจะเปลี่ยนไปทำเกษตรด้านอื่นแทน


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก อีจัน และ Chuvit Pitakpornpunlup